วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559

ชีวิตดี๊ดี...ต้องมีเป้าหมายที่ถูกต้อง

ทำไมต้องตั้งเป้าหมายชีวิต

      เป้าหมายชีวิตมีความสำคัญมาก เพราะเป็นจุดหมายปลายทางของการดำเนินชีวิตของเรา หากเรามีเป้าหมาย ความคิด คำพูด และการกระทำทุกอย่างในแต่ละวัน จะมุ่งไปสู่เป้าหมายที่เราตั้งไว้  หากเราไม่ตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ เราก็จะไม่ต่างอะไรกับนกกาที่หากินเพื่อความอยู่รอดไปวันหนึ่ง ๆ จนหมดอายุขัยตายจากโลกนี้ไป คนมีเป้าหมายชีวิตเปรียบเสมือน เรือเดินสมุทรที่มีหางเสือ มีกัปตันคอยชี้ทางว่าจะนำเรือมุ่งหน้าไปทางไหน เรือเดินสมุทรลำนี้ จึงต่างจากขอนไม้ที่ล่องลอยอย่างไร้จุดหมายอยู่กลางทะเล ถูกคลื่นลูกนั้นลูกนี้ซัดไปมาให้เคว้งคว้าง และผุพังจมไปตามกาลเวลา

เป้าหมายที่ดี ย่อมนำไปสู่การดำเนินชีวิตที่ดีที่ถูกต้อง

      การมีเป้าหมายเป็นสิ่งที่ดี  แต่จะดีอย่างแท้จริง ถ้าเป้าหมายนั้นถูกต้องตามความเป็นจริง จะหาคนดีจริงสักคนในโลกนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย  แต่มีบุคคลผู้หนึ่ง ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เลิศผู้ประเสริฐมากว่า 2500 ปี มีประวัติที่ยืนยันคุณธรรมความดีที่สร้างไว้มายาวนาน นั่นคือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านจึงเป็นบุคคลที่ควรแก่การนำมาเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต

      พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้กล่าวถึง เป้าหมายชีวิตของมนุษย์ไว้ 3 ระดับ

     1) เป้าหมายชีวิตในระดับต้น คือ การตั้งเป้าหมายชีวิตเพื่อประโยชน์ในชาตินี้ คือเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต มีครอบครัวที่อบอุ่น มีอาชีพการงานมั่นคง สุจริต ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม มีความเจริญก้าวหน้าตามความปรารถนาและความถนัดของตน

     2) เป้าหมายชีวิตในระดับกลาง คือ การตั้งเป้าหมายชีวิตเพื่อประโยชน์ในชาติหน้าคือ นอกจากจะพยายามตั้งฐานะของตนให้ได้แล้ว ก็จะตั้งใจสร้างบุญกุศลอย่างเต็มที่ในทุก ๆ โอกาสที่อำนวยให้ เพื่อสะสมเป็นเสบียงในภพชาติต่อไป เพราะว่าตายแล้วไม่สูญ ตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลส ก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก และมีสิ่งเดียวที่จะนำติดตัวไปได้ ก็คือ “บุญ” เท่านั้น จึงควรตั้งใจสั่งสมความดีทุกรูปแบบเพื่อเป็นเสบียงในการเดินทางข้ามภพข้ามชาติ และเป็นปัจจัยในการบรรลุเป้าหมายชีวิตขั้นสูงสุด จึงจะคุ้มค่ากับการเกิดมาเป็นมนุษย์

     3) เป้าหมายชีวิตในระดับสูงสุด คือ การตั้งเป้าหมายชีวิตเพื่อประโยชน์อย่างยิ่ง คือเข้าพระนิพพานตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด อันเป็นเหตุแห่งทุกข์อีกต่อไป
     การจะหมดทุกข์ได้ต้องมีความเพียรหมั่นฝึกฝนอบรมตนเองอย่างยิ่งยวด นับภพนับชาติไม่ถ้วน เรียกว่า การสร้างบารมี ๑๐ ทัศ คือ ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย  ซึ่งต้องต่อสู้ฟันฝ่ากับอุปสรรคมากมายคือ “กิเลสตน” “กิเลสคนอื่น” และ “วิบากกรรมชั่ว” ที่ตนเคยทำผิดพลาดไว้ในอดีตไปตลอดเส้นทาง จนกว่าบารมีเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ จึงบรรลุเป้าหมายสูงสุดของชีวิต

      ดังนั้น  มีเราความเข้าใจถูกว่า เป้าหมายสูงสุดของชีวิตคืออะไร แม้ว่าจะประกอบอาชีพ ทำมหาเลี้ยงครอบครัว ก็ต้องไม่ประมาทขวนขวายสร้างความดี สั่งสมบุญกุศล ด้วยให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาอย่างเต็มที่ ให้การเกิดมาเป็นมนุษย์ในครั้งนี้ มุ่งตรงสู่เป้าหมายทั้ง 3

ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย  ท่านได้สรุปย่อถึงเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำของการเกิดมาเป็นมนุษย์ไว้ว่า

                          เกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี

                                       นี่แหละ  เหตุแห่ง...ชีวิตดี๊ดี...ของฉัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น